นักวิ่งทั่วประเทศทะลัก “วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” ครอสคันทรี่อุบลฯ กระแสดีเกินคาด

Advertisements

นักวิ่งทั่วประเทศทะลัก “วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” ครอสคันทรี่อุบลฯ กระแสดีเกินคาด

นักวิ่งทั่วประเทศกว่า 1,000 คน ร่วมงาน “วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” ชาวบ้านซีทวน ให้การต้อนรับและร่วมจัดงานอย่างสนุกสนาน

เปิดโฉมใหม่ของการท่องเที่ยวอีสานใต้ สัมผัสวิถีชุมชนโบราณ แหล่งศิลปะ วัฒนธรรมเก่าแก่ อายุกว่า 3,000 ปี

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน และปล่อยตัวนักวิ่งกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัด “วิ่งสร้างคน คนสร้างบ้าน ชุมชนสวนยางเปิดบ้านชวน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง” จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้ง มอบอุปกรณ์กีฬา และผ้าขนหนู ให้กับ นางสาวทิพยวิภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านชีทวน ผู้แทนชุมชนบ้านชีทวนเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สำหรับชุมชนต่อไป ร่วมด้วย นายประชุม บุญเทียม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าที่ร้อยตรีหญิง กาญจนา วาสนสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี นายเดช ใจกล้า ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ การกีฬาแห่งประเทศไทย นายสรศาสตร์ ครองยุทธ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี พันตำรวจเอกประทีป กิจจะวัฒนะ กรรมการกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งนาย สมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ผู้แทนสถานศึกษา และผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เกียรติร่วมงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2561 ณ วัดทุ่งศรีวิไล ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัด อุบลราชธานี โดยการแข่งขันในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จได้รับกระแสตอบรับด้วยดี มีผู้เข้าร่วมแข่งขันและผู้ร่วมงานกันอย่างคึกคักกว่า 1,000 คน เป็นการวิ่งรูปแบบใหม่ “ครอสคันทรี่” (Cross Country) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งเสริมการจัดกิจกรรม ปั้นโครงการต้นแบบในการส่งเสริมการออกกำลังกาย กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างกระแสรักการออกกำลังกาย พร้อมพัฒนาชุมชนเกษตรกรรมสวนยาง เสริมรายได้จากท่องเที่ยว เชิงกีฬาอย่างยั่งยืน

นายประชุม บุญเทียม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย นาย สมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และภรรยา ว่าที่ร้อยตรีหญิง กาญจนา วาสนสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี นายสรศาสตร์ ครองยุทธ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี นายเดช ใจกล้า ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ การกีฬาแห่งประเทศไทย พันตำรวจเอกประทีป กิจจะวัฒนะ กรรมการกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้ง ผู้แทนสถานศึกษา และผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เกียรติร่วมงาน และปล่อยตัวนักกีฬา ณ วัดทุ่งศรีวิไล ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัด อุบลราชธานี

นายประชุม บุญเทียม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย นาย สมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และภรรยา ท่าน พระครูสุนทรสุตกิจ รองเจ้าคณะอำเภอเขื่องในและเจ้าอาวาส วัดทุ่งศรีวิไล ว่าที่ร้อยตรีหญิง กาญจนา วาสนสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี นายสรศาสตร์ ครองยุทธ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี พันตำรวจเอกประทีป กิจจะวัฒนะ กรรมการกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้ง ผู้แทนสถานศึกษา และผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เกียรติร่วมงาน และปล่อยตัวนักกีฬา ณ วัดทุ่งศรีวิไล ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัด อุบลราชธานี

พระครูสุนทรสุตกิจ รองเจ้าคณะอำเภอเขื่องในและเจ้าอาวาส วัดทุ่งศรีวิไลได้มอบเหรียญรางวัลที่ระลึกให้กับนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยเพื่อเป็นกำลังใจและเป็นศิริมงคลแก่นักกีฬา

ท่าน พระครูสุนทรสุตกิจ รองเจ้าคณะอำเภอเขื่องในและเจ้าอาวาส วัดทุ่งศรีวิไล ตำบลชีทวน ได้มอบเหรียญรางวัลที่ระลึกให้กับนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยเพื่อเป็นกำลังใจและเป็นศิริมงคลแก่นักกีฬา

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศ และผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้ร่วมมอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันอันดับ 1-3 ในแต่ละประเภท ระยะ 15 กิโลเมตรและ 7 กิโลเมตร และระยะ 24 กิโลเมตร

ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ นอกจาก ได้ทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ได้แวะเที่ยว ได้เพลิดเพลินกับการวิ่งรูปแบบใหม่ ชื่นชมบรรยากาศที่งดงามสองข้างทาง สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวอุบลราชธานี ชุมชนโบราณ ในอาณาจักรเจนละ ประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว ชมวัดเก่าแก่ สักการะพระพุทธวิเศษพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ยุคทวารวดี มีอายุกว่า 1,000 ปี เที่ยวชมศิลปะโบราณที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนอกจากที่ตำบล ชีทวน ทั้ง สถูปหรือเจดีย์ประธานของวัดธาตุสวนตาล หรือ พระธาตุสวนตาล เรือขุดโบราณ ทำจากไม้ตะเคียนหินต้นเดียว อายุประมาณ 300 ปี และ ธรรมมาสสิงห์เทินบุษบก ตั้งอยู่ในศาลาการเปรียญวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ บ้านชีทวน เป็นงานศิลปกรรมที่ “แกวเวียง” และงานจิตรกรรมฝ้าเพดานศาลาการเปรียญเป็นธรรมมาสน์ที่แปลกและมีอยู่หลังเดียวในประเทศไทย